5 ทางแก้นิสัยโมโหง่ายให้แปลงเป็นคนใจเย็นขึ้น

[kaidee20]

5 ทางแก้นิสัยคนขีขุ่นเคืองให้แปลงเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. ระงับคำกล่าวแล้วก็พฤติกรรมในยามที่โกรธคือถ้าเกิดมีความคิดว่า อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า...ความนึกคิดใดๆก็ตามคำบอกเล่าใดๆการกระทำใดๆก็ตามหากมีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจสาแก่ใจชั่วประเดี๋ยว แต่สุดท้ายจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กเบื้องต้นที่ต้องทำให้ได้คือ...เราจะไม่บอกหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

คอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน

2. ใคร่ครวญโท ษของความโก รธรวมทั้งคุณประโยชน์ซึ่งมาจากความกรุณาปรานีคือให้ย้อนนึกถึงชีวิตก่อนหน้านี้

ว่าพวกเราเสียอะไรไปบ้างเนื่องจากความโก รธทำคนใดเสียใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเท่าใด

ทำลายความสัมพันธ์ไปอย่างไรสิ่งพวกนี้ให้ก้มมาคิดบ่อยๆคิดซ้ำให้มากมายๆ


ใคร่ครวญจนปัญญายอมรับ หมดข้ออ้างอย ากปรับปรุงตนเองด้วยความสมัครใจ


เนื่องจากมั่นใจแล้วว่า ความโกรธเคืองไม่ใช่ของดีแต่เป็นสิ่งที่ทำลายความสบายและก็ความเจริญรุ่งเรือง

ทั้งยังของเรา คนที่พวกเรารัก และก็คนที่รักพวกเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของมนุษย์พวกเราเกลียดให้คนไหนกันมาสั่งเท่าที่เรายังไม่ต กผลึ กยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตนเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่เราจำต้องแปลงตนเองคนไหนกันแน่จะกล่าวคนไหนจะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยน

เช่นนี้แล้ว พวกเราก็เลยจะต้องกระทำตัวเป็นคุณครูของตัวเองเพื่อสั่งสอนตัวเองให้เห็นพิ ษภั ยของความโก รธรังเกียจอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสุขเล็กๆน้อยๆให้ผู้อื่นกระทั่งเป็นนิสัยคือให้รู้จักสรรเสริญ ให้กำลังใจผู้คนบ่อยๆ

เมื่อทำให้เขาแฮปปี้แล้วให้เรารู้จักเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้ใจพวกเราจับใจ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่เสมอพวกเราบางครั้งก็อาจจะทดลองเปรียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์ลักษณะนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดีกว่ากันถ้าหัวใจเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆระอาความโมโหเกลียดชังชิ งชั งไปทีละน้อยๆ

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลคู่อริถ้าเกิดความโกรธเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตากรุณา

พวกเราอาจขับไล่ไสส่งความมืดมิได้แม้กระนั้นหากเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดดำจะหายไปและก็ความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดการกิเล สให้น้อยลง


4. ฝึกฝนมองดูความรู้สึกด้วยความจริงใจที่เป็นกลางในข้อนี้เป็นธรรมะชั้นลึก เป็นการรุ่งโรจน์สติ


เป็นเราฝึกหัดดูอารมณ์ต่างๆของเราด้วยความจริงใจที่เป็นกลางเสมือนความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรา

พอใจก็ไม่เข้าไป เศร้าใจก็ไม่เข้าไปคนชื่นชอบก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกหัดให้มีความคิดเห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดกลุ่มนี้

ถ้าหากจิตใจพวกเราเข้าไปยึดในที่สุดก็ไม่ดีทั้งหมดเพราะเหตุว่ายึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเสมือนในกำเหรียญไว้ภายในมือ

ก็จะได้อีกทั้งหัวทั้งก้อยมาในครั้งเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้ถ้าเกิดฝึกหัดเสมอๆเว้นแต่ความขุ่นเคืองแล้วยังช่วยกำจัดลดทอนพลังความนึกคิดด้านล บได้ทั้งหมดทั้งปวง

ยกตัวอย่างเช่นความซึมเศร้าความเหงาความเบื่อต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

5. รู้จักอยู่ รู้จักข้อเสียจุดแข็ งของตนเป็นให้รู้จักสังเกตตัวเองแม้เราโก รธผู้ใดเสมอๆ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางคราว กับคนบางคนให้สังเกตดูเถอะว่า พวกเราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ กระทั่งกลายเป็นความคุ้นเคยเพียงมองเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

ดวงใจก็วูบๆไหวๆความอารมณ์เสียก็เริ่มเข้ามาตรงนี้ควรหลีกเลี่ยงการประจันหน้าดังนี้ในเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ

เป็นต้นว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัว เป็นสามีภรรย าเป็นลูก เป็นเจ้านาย ลูกน้อง มิตรสหาย อย่างนี้ก็ให้ยกเอาสิ่งที่เขาทำขั ดหัวใจพวกเรา

มาเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนหัวใจของเรา ฝึกอภั ยดีมากกว่าปล่อยใจของพวกเราให้ต กต่ำไป

เพราะเหตุว่ามัวแต่วิวาทกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้พวกเราทราบไว้ว่า ส่วนมากแล้ว

แม้ขัดแย้งแต่มีความจำเป็นจำต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักมีต้นเหตุที่เกิดจากมีบุญก ร ร ม

ชมรมด้วยกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนแบบนี้ยิ่งจำเป็นต้องรู้จักระวัง ระงับ สำรวม

อย่าไปสร้างเวรให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนเจ้าอารมณ์ ไม่มีอะไรดีมีแม้กระนั้นเสียประโยชน์ เสียทั้งสุขภาพที่เกี่ยวข้องทางร่างกายใจ

ทำลายความข้องเกี่ยว ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนเปลี่ยนเป็นคนที่สร้างความทุ กข์ให้ผู้อื่น

และก็ตนเองก็ใส่ความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกแรกๆจะทำได้ย ากแม้กระนั้นขอให้ทรหดอดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรจะมีพลังใจ และก็วินัยฝึกหัดแรกๆอย่าปล่อยใจตามความคุ้นเคยของตนสุดท้ายแล้วพวกเราควรจะมีความเข้าใจว่า

การลดพยายามอัตตาของตัวเองลดความโกรธเคืองชังของตัวเองเราไม่ได้ทำเพื่อคนใดกันแม้กระนั้นเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตนเอง

เพื่อความสุขของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่ง่ายดาย แต่ว่าถ้าทำได้วันหนึ่ง ทราบจะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่เบาขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นพวกเราจะยินดี และก็รู้สึกขอบคุณมากตัวเองรู้สึกภูมิใจว่า พวกเราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและสิ่งนี้คือการมอบความรักและก็ความกรุณาให้ตัวเองอย่างแท้จริง...

ใจเย็นขึ้น
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/