• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

✅งานทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน🎯 การทดสอบความหนาแน่นของดินในสนาม🎯

Started by Chigaru, July 17, 2024, 09:06:10 PM

Previous topic - Next topic

Chigaru

การทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน (Field density test) เพื่อเปรียบเทียบกับความหนาแน่นที่ได้จากการทดสอบในห้องแล็บ จุดประสงค์ของการทดสอบ เพื่อประเมินความหนาแน่นของดินในสนาม ว่าหลังจากการบดอัดแล้ว พื้นที่นั้นสามารถรับน้ำหนักตามที่กำหนดได้หรือไม่

โดยทั่วไปการทดสอบหาความหนาแน่นแห้งของดินในสนาม คือ การหาค่าความหนาแน่นเปียกและปริมาณความชื้นในดิน ในการทดสอบหาค่าความหนาแน่นของดินในสนาม (Field Density) จะมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ

📢📢📢1. Sand Cone Methodวิธีนี้ใช้ทรายในการหาปริมาตรของหลุมโดยทรายที่ใช้คือ ทราย Ottawa ซึ่งขนาดของเม็ดทรายจะมีลักษณะกลมและมีขนาดเท่าเท่ากัน (Uniform) หรือจะใช้ทรายที่ผ่านการร่อนตามมาตรฐาน เพื่อให้ผลที่สม่ำเสมอและไม่แยกตัวขณะทดสอบ
🦖🦖🦖2. วิธีลูกโป่งยางวิธีนี้ใช้น้ำช่วยในการหาปริมาตรของหลุม ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า ในการทดสอบต้องใช้ลมในการบีบอัดน้ำลงไปในหลุมทดสอบ ลมที่อัดลงไปนี้มีส่วนช่วยให้น้ำในลูกโป่งอัดแนบสนิทกับก้นหลุม ทำให้ได้ค่าปริมาตรของหลุมที่ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
🛒🛒🛒3. Nuclear Methodเป็นการหาค่าความหนาแน่นของดินและปริมาณความชื้นของดินบดอัดแห้ง หาความหนาแน่นเปียกของดิน โดยใช้รังสีแกมม่าส่งผ่านดินที่ต้องการ ก่อนที่จะไปเข้าเครื่องรับรังสี ถ้ารังสีสะท้อนกลับไปเครื่องรับมาก แสดงว่าดินมีความหนาแน่นสูง ส่วนการหาปริมาณความชื้นโดยใช้นิวตรอน (Newtron)ส่งผ่านเข้าไปในดินและสะท้อนไปยังเครื่องรับช้าแสดงว่าปริมาณน้ำในมวลดินมีมาก วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วแต่ค่าใช้จ่ายสูง
📌🛒🌏✨
Quoteบริการ เจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ Soil Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 เว็บไซต์: เจาะสำรวจดิน.com
✅👉👉👉
การก่อสร้างถนน สนามบิน เขื่อนดิน พื้นที่โรงงาน ฯลฯ จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ตามชนิดและประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง หลังจากบดอัดได้ที่แล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบผลของการบดอัดนั้นว่ามีความแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่ได้ออกแบบคำนวณไว้หรือไม่ เช่น งานชั้นรองพื้นทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100% ชั้นดินเดิมและดินถมต้องบดอัด 95% การบดอัดนี้จะต้องมีการควบคุมความชื้นในดินและพลังงานที่จะใช้ในการบดอัดให้พอเพียงและประหยัด ถ้าจำนวนเที่ยวที่บดอัดมากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองทั้งค่าแรงงานและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปก็จะไม่ได้ความแน่นที่ต้องการจะต้องกลับมาทำงานซ้ำอีก

การการประเมินความหนาแน่นของดิน คือ หาน้ำหนักของดินที่บดอัดแล้วหารด้วยปริมาตรของหลุม และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นและความถ่วงจำเพาะที่แน่นอนในการแทนที่ ซึ่งการทดสอบอาจทำได้โดยใช้ทรายมาตรฐานหรือใช้น้ำ ทั้งสองวิธีใช้หลักการเดียวกัน

📌📌📌ขั้นตอนการทดสอบ Field Density Test🌏🌏🌏

🛒📌🦖1. ปรับพื้นผิวทดสอบให้เรียบขนาด 450×450 เซนติเมตร จากนั้นก็วางแผ่นฐานรองให้สนิทกับพื้นดิน แล้วตอกตะปูยึดแผ่นฐานรองให้แน่น ปัดฝุ่นที่ผิวดินและที่แผ่นฐานออกให้หมด
⚡✨🥇2. ใช้สกัดเจาะดินตรงกลางแผ่นฐาน และก้นหลุมต้องเท่ากับปากหลุม ใช้ช้อนเล็กตักดินที่ขุด ในกรณีเหลือดินน้อยๆให้ใช้แปรงทาสีปัดเศษดินที่อยู่ในหลุมให้เรียบร้อย
📢🌏⚡3. นำดินที่ได้จากการขุดมาชั่งและจดบันทึกค่าไว้หลังจากนั้น นำดินส่วนหนึ่งที่ขุดได้ไปชั่งเสร็จแล้วนำตัวอย่างดินส่วนหนึ่งไปหาค่าปริมาณความชื้น
✅👉📢4. ทำการคว่ำกรวยทรายที่เตรียมไว้แล้วลงบนปากหลุมโดยให้กรวยทรายพอดีกับแผ่นฐานรองแล้วเปิดวาล์ว ระวังอย่าให้เกิดการกระทบกระเทือนในขณะปล่อยทรายลงหลุม เพราะจะทาให้ค่าที่ได้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
🥇🛒📌5. เมื่อทรายหยุดไหล ปิดวาล์วและนำทรายที่เหลือในกรวยไปชั่งน้ำหนักพร้อมกรวย และบันทึกค่า
🌏⚡✨6. นำทรายที่อยู่ในหลุมใส่ลงในกระป๋องเก็บทรายตามเดิมโดยพยามอย่าให้มีดินที่อยู่ในก้นหลุมติดทรายขึ้นมาด้วย เพราะว่าทรายที่เก็บขึ้นมาจะต้องทดสอบในหลุมอื่นๆ อีกต่อไป
Tags : ทดสอบ Seismic Test