• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นต้นเหตุ ? รักษาได้อย่างไร ?

Started by Joe524, January 05, 2023, 11:38:58 PM

Previous topic - Next topic

Joe524

ตับมีปัญหา ต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกที เนื่องจากหากปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับได้เหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตับกำลังเจอปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? รวมทั้งควรดูแลบำรุงอย่างไร..? บทความนี้มีคำตอบให้ท่าน  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเสมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บสินค้า (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) และก็ยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) หากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ยกตัวอย่างเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและก็เกลือแร่เอาไว้ภายในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน แล้วก็ถึงสารเริ่มของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง ของกินแล้วก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะ หรือถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนมากมีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานหนัก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินความจำเป็น
6.ขาดการออกกำลังกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบกินอาหารดิบๆสุกๆ
10.ทำงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในวันแล้ววันเล่าอีกด้วย โดยเราอาจจะลองสังเกตอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ตัวอย่างเช่น มีอาการเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนแรง , มีปัญหาในการนอนหลับ , ท้องอืดเป็นประจำ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความอยากอาหารน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่มีความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยด้านทฤษฎีถ้าเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ว่ามิได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะแม้ตับอักเสบบ่อยๆกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดเป็น การเอาใจใส่บำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงของว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสชาติแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดความเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ (หรืออย่างต่ำ 60 นาที/อาทิตย์)
ขณะทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกหัดการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้น้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นถ้าเกิดปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้ารู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำเป็นยาก ลองดูเทคนิคน่ารู้ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องรับประทาน..เรื่องสำคัญ" ของกินที่เรารับเข้าไปในแต่ละวันก็ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากินอะไรลงไป.. และก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วๆไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แอบแฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่การค้นคว้าวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับเพื่อการลดไขมันในผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่เคยได้ยินคนอีกหลายๆคน แต่ว่ามันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกและกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย รวมทั้งยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่รู้ตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตและก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งจำเป็นซึ่งสามารถปกป้องแล้วก็ลดความเสี่ยงในการเป็น ตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่เอาชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" ร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยถ้าหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการขอความเห็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาหารือปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage แล้วก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในตลอดเวลา