1.พิมพ์แคตตาล็อก

[Hanako5]

พิมพ์แคตตาล็อก
งานพิมพ์แคตตาล็อกแท้จริงแล้วตามความหมายที่ถูกต้อง คืองานเอกสารที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
จะต้องมีบทนำ สารบาญ รายละเอียดโดยไม่ได้ต่างอะไรจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แต่ว่าหากว่าในปัจจุบันงานพิมพ์แคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนความหมายไปเป็นการตามรูปแบบของการใช้งาน ซึ่งความหมายแปลงเป็นงานพิมพ์ที่แสดงรายละเอียด
ของสินค้าโดยจะมีรูปภาพประกอบและอาจจะมีคำบรรยายหรือข้อแนะนำผลิตภัณฑ์ควบคุมไว้ ซึ่งปัจจุบันนี้แปลงเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่จำเป็นต้องเป็นรูปเล่มหรือจะต้องมีส่วนประกอบอย่างบทนำและสารบาญก็ได้ โดยที่นิยมมากในขณะนี้
ก็คืองานพิมพ์แคตตาล็อกแบบอย่างแผ่นพับ ฯลฯ
ลักษณะของแคตตาล็อกที่ถูก คือ งานเอกสารสื่อโฆษณาประเภทการแสดงระเอียดรายการที่ผลิตภัณฑ์ที่ผู้จัดทำ
ปรารถนาเสนอ โดยจะมีภาพประกอบผลิตภัณฑ์ ชื่อผลิตภัณฑ์และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการแยกเป็นชนิดและประเภทเป็นกลุ่ม
จำพวกผลิตภัณฑ์เพื่อจ่ายต่อการแยกเป็นชนิดและประเภท โดยจะมีการจัดทำสารบาญเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ทั้งหมดเอกสารทั้งหมดทั้งปวงจะถูก
ทำเป็นรูปแบบรูปเล่มคล้ายกับวารสาร โดยจุดมุ่งหมายด้านการใช้แรงงานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นระบุกระจ่างใน
ด้านรายละเอียด แตกต่างจากงานพิมพ์โฆษณาชนิดอื่นๆที่ผู้จัดทำต้องการจะใส่รายละเอียดประเภทไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แต่ว่าสำหรับ
งานพิมพ์นี้ถ้าเกิดเมื่อคนพูดถึงสิ่งพิมพ์แคตตาล็อก ในความคิดทุกคนจึงควรคิดภาพเอกสารที่มีรูปผลิตภัณฑ์แล้วก็รายละเอียดในทันที
แต่เนื่องด้วยการพิมพ์แคตตาล็อกเป็นรูปแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากรวมถึงมีความหนาและก็ขนาดใหญ่
จึงไม่เหมาะสมสำหรับเพื่อการใช้งานจำพวกการแจกจ่ายแบบทั่วๆไปตามท้องถนน จึงทำให้มีการจัดทำแผ่นพับที่เจาะจงชนิดระบุรายละเอียด
สินค้า แล้วก็ทำให้คนธรรมดาทั่วไปเรียกแผ่นพับเหล่านี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างแพร่หลายซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องตามวิธีการใช้งานควรจะเรียก
เป็นแผ่นพับมากกว่า สำหรับการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นคนจัดทำจำต้องวางรูปแบบการดำเนินเรื่อง ส่วนประกอบเนื้อหา พวก รวมทั้งจำนวน
หน้า รวมถึงจำนวนเล่มที่จำต้องผลิต เนื่องจากการแบบการพิมพ์ไม่ได้มีความแตกต่างจากหนังสือเพราะปริมาณเล่มต้องเยอะแยะในระดับหนึ่งเพื่อให้
คุ้มค่ากับทุนสำหรับในการทำแม่พิมพ์หลายชิ้น
ขนาดของงานพิมพ์แคตตาล็อกโดยปกติควรจะใช้ขนาดประมาณ A4 , A5 ,A6 หรือบางทีอาจจะใหญ่หรือเล็กมากยิ่งกว่าสัก
เล็กน้อย เพราะว่าถ้าหากขนาดที่แปลกเกินความจำเป็นบางทีอาจจะจำต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มอีก การเลือกใช้กระดาษก็ชอบเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แต่ว่าที่จำเป็นต้องพิเคราะห์เรื่องความงามเป็นพิเศษนั่นเป็น ปกของแคตตาล็อก โดยชอบใช้กระดาษที่มีความหนากว่า
ข้างใน ยกตัวอย่างเช่น อาร์ตการ์ด เป็นต้น ทั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการตกแต่งพิเศษประเภท Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนท้ายที่สุดการเข้ารูปเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นกับความดกของรูปเล่มอีกรอบหนึ่ง
เนื่องแต่พิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากจึงไม่นิยมใช้เป็นสื่อโฆษณาที่ใช้แจกบ่อยเกินและไม่เหมาะสมกับ
กรุ๊ปลูกค้าทั่วๆไป จำเป็นต้องใช้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ความพอใจจริงๆแล้วก็มีโอกาสบริโภคเท่านั้น เช่น กรุ๊ปลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็บางครั้งก็อาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรือบางทีก็อาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาถามถึงสินค้าของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านท่านแล้ว ดังเช่นว่า ลูกค้ามาเดินดูรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ จะต้องแจกแคตตาล็อกที่มีข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ให้ประกอบการ
ตัดสินใจเพื่อสร้างความตรึงใจให้ลูกค้า ท้ายที่สุดการพิมพ์แคตตาล็อกควรมีการวางเป้าหมายและก็พิจารณาถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างยอดเยี่ยมเสียทุกครั้งก่อนการจัดทำ