• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้ทราบ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Chanapot, April 06, 2023, 05:10:32 AM

Previous topic - Next topic

Chanapot

1. เพราะพวกเราไม่ได้เกิดมาเพื่อปฏิบัติงานอย่ างเดียว

เราไม่ได้ดำเนินงานแล้วแฮปปี้ทุกๆวัน บ่อยที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ว่าถ้าเกิดพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ และก็ยังรวมทั้งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่เราชอบจะก่อให้ร่าเริงแจ่มใสขึ้น แล้วก็ เพิ่มความมั่นใจและความเชื่อมั่น เนื่องจากว่าการเฟลจากที่ทำงานส่วนใหญ่มักทำให้เราท้อแท้ใจ และก็ขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเองในตัวเอง ส่วนตัวเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และ อีกเยอะแยะ


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนพ้องคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามาก ขมักเขม้นขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ เดี๋ยวนี้ดำเนินงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จวบจนกระทั่งบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. รู้ยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างเรา สิ่งที่พวกเรากลัวเกรงที่สุดในที่ทำงานก็น่าจะหนีไม่พ้นนายจ้าง ผู้ที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยแตกต่างกันไป อย่ างตัวเราเคยเจอในขณะที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานหนัก ไปจนถึงวันๆไม่ทำงานทำการ รอสั่งคนโน่นทีคนนี้หน แต่พอใช้มองดีๆพวกเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แม้กระนั้นคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าเกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากมายมิได้ไง เพราะเหตุใดน่ะหรอ นอกเหนือจากที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองเขม่นแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความนับถือด้วย หนำซ้ำอาจจะพาลกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าเกิดให้เสนอแนะก็อย ากจะกล่าวว่าพย าย ามเข้าใจเค้าดีมากกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างพวกเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนชั่วบ้ า ง นิสัยก็ต่างกันบ้ า งคือเรื่องธรรดา อย่ าเห็นว่าพวกเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองในมุมที่ว่าหากเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานตรงไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปเจอครอบครัว

มิได้อย ากอยู่ดึกๆให้คนที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินงาน ก็อย ากท่องเที่ยวแบบเดียวกันนั่นแหละ แม้กระนั้นแค่ออกหน้าพูดมากแบบเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกภาพ

เพียงแค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำเป็นต้องเอางานเราไปนำเสนอกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องคนไหนกันแน่ที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นปกติ

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเหลือเกินในโลกออนไลน์

หลายท่านเชื่อว่าโลกโซเชียลเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แต่ว่าทราบรึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนี้นอกจากจะดู resume เราแล้ว ยังดูเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย สหายพวกเราที่เป็น HR รับรองมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่จริงจริงของพวกเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกออนไลน์

ของเรานั้นส่งผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างพวกเราคือไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือถ้าเกิดจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าหัวหน้ามามองเห็นก็ช่างเถิด


ถ้าอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาธาราณพด้วย ด้วยเหตุว่า ส่วนใหญ่คนภายในที่ทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้างี่เง่า ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่ๆ...!! เตือนแล้วนะ

4. โฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา พอใจ ตั้งใจ แต่... อย่ าเก็บทางวิ่งผู้อื่นมาริษยา

ตอนปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เพื่อนฝูงเราหลายๆคนเริ่มเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลแปลงงานไปงานที่เงินเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตน บางโอกาสเราเลื่อนมองหน้าเฟสแล้วหลังจากนั้นก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ก้าวหน้า แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แม้กระนั้นบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็มิได้ดีมากยิ่งกว่าพวกเราหรอกเผลอๆสหายหลายคนบางครั้งก็อาจจะกำลังอิจฉาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... เป็นตัวเราเองก็มิได้คิดเลยว่าชีวิตเราดี สิ่งที่พวกเราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี ต้องจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น

โฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา ทราบว่าเรากำลังจะทำอะไร รู้ดีว่าจุดหมายปลายทางเราอยากได้อะไร ทราบว่าวันนี้พวกเราประพฤติดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบมองลู่วิ่งผู้อื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้พวกเราจริงจังกับชีวิตมากขึ้น แต่ว่าอย่ าเก็บมาตั้งใจจนกระทั่งกลุ้มใจเพียงพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

ประเดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งจะตระหนกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้แสดงว่า ให้พวกเราไม่ต้องจิรงหัวใจกับคนใดกันแน่ แต่... มีความหมายว่า " เราไม่ใฝ่ใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสำนักงานหลายๆที่

มีการเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าคนที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) จำนวนมากปราศจากความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแม้กระนั้นเล่นเค้าไว้มากนี่ห้ามเสียทีเลยจ้ะ มีคนรอคอยซ้ำเยอะแยะเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่คือ... การที่พวกเราดูว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร ไม่ได้พูดว่าให้สตอเบอร์รี่ หรือ ฝืนตัวเอง แม้กระนั้น... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชอบ

โตมาในสังคมที่ไม่เหมือนกัน การที่เราดูแล้วทราบว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะมีผลให้เราเหนือกว่ามากๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วผิดจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่จำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่รู้เรื่องหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปดำเนินงานกับคนไหนกัน ด้วยเหตุนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แม้กระนั้นในอนาคต บางทีอาจได้วัวรจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนด่าตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความคาดหวังจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย แม้ว่าเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีมากยิ่งกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านระยะเวลาแบบพวกเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะเสนอแนะเป็น.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม พวกเราไม่ได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย ากถามอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันห่วยก็พรีเซ้นไปเรื่อยฝึกไปเรื่อยโดนด่าช่วงนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าตอนอายุ 50 มาก ถึงแม้จะบกพร่อง ด้วยความยังเด็ก รวมทั้ง อ่อนประสบการณ์ คนส่วนใหญ่พร้อมจะยกโทษเราเสมอ ด้วยเหตุดังกล่าว ล้มเหลวจำนวนไม่ใช่น้อยเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามต่างกันระหว่าง " เพื่อนฝูง " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " เป็นยังไง ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนพ้องย ากก็น่าจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนฝูงในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไหร่ พวกเราจะหาเพื่อนย ากขึ้นเพียงแค่นั้น และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนแท้จริงใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากแค่ไหน


นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องผลตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง เงินเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงินเดือนอย่ างเราเป็นไปปฏิบัติงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาสหาย ด้วยเหตุนี้วันๆพวกเราก็เลยจะพบแค่เพื่อนฝูงร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่รวมทั้งเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่เจอกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และเพื่อนผู้ร่วมการทำงานในคราวเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างนี้ เรารู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหนึ่งก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ แค่ได้พบเห็น

เสวนาเปลี่ยนความเซ็งก็ดี ให้เราลองถามตนเองว่า "หากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอสหายจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " เพื่อนร่วมงาน " ให้เจอ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง " สหาย " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนพ้องย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และก็การหาสหายในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นมากแค่ไหน เราจะหาสหายย ากขึ้นเพียงแค่นั้น

และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนฝูงที่จริงดวงใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากเพียงใด นอกจากจะมีเรื่องผลตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การวัด เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราค่าตอบแทนรายเดือนอย่ างเราเป็นไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาเพื่อนฝูง ดังนั้นวันๆพวกเราก็เลยจะเจอเพียงแค่เพื่อนร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

เราโชคดีที่เจอทีมที่ดี คุยได้ทั้งเรื่องส่วนตัวและก็เรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็สหายร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างงี้ พวกเรารู้สึกว่ามันเป็นกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนกลุ่มนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหน่อยก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ แค่ได้พบเห็น เสวนาเปลี่ยนความเซ็งก็ดีแล้ว ให้พวกเราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าหากพวกเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" หากคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณพบเพื่อนพ้องจริงๆในที่ทำงานแล้ว

8. ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมืออาชีพ "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าหากอย ากบรรลุเป้าหมาย รวมทั้ง แฮปปี้ ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร " ให้ได้ กล่าวง่ายแต่ทำย ากนะ เพราะว่าผู้รับจ้างมืออาชีพก็คือผู้ที่ใส่ใจได้ว่า " เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงงานปริมาณหนึ่ง " ซึ่งก็นับได้ว่าบริษัทเค้าต้องการอะไรบางอย่ างจากเราแลกเปลี่ยนกับเงินเดือนนั้นๆ

เราจำเป็นต้องรู้ดีว่าบริษัทว่าจ้างพวกเรามาทำอะไร และก็ ทำมันให้ดีมากกว่าที่บริษัทมุ่งมาดถ้าเกิดปรารถนาความรุ่งโรจน์ในหน้าที่ แม้งานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่ควรทรหดอดทนทำไป


ควรหางานที่เราทำแล้วเราสุขสบายรวมทั้งทำได้ดีเพื่อดึงศักยภาพของตนออกมาให้เยอะที่สุด นอกเหนือจากการที่จะทำให้เราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังมีผลให้เราปรับปรุงตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งพวกเราจะทราบเองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ชอบให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ ถ้าเกิดในที่สุดพวกเราเจอสายอาชีพที่พวกเรารักแล้วก็อย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

แล้วก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าตอบแทนปริมาณหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าเงินเดือนจนกระทั่งเกินความจำเป็น ทุ่มเทได้ แต่ว่าควรมีคำตอบที่ดีตามออกมาด้วย อาทิเช่นได้ปรับเงินเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูข้างหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ขณะนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าบิดามารดาอายุมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก แลกเปลี่ยนกับความสุขของพ่อแม่
ลูกน้อง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/